Group Test : TOYOTA HILUX REVO D Z Edition ขับสบายให้สัมผัสที่นุ่มและเฟิร์มแบบรถเก๋ง กับค่าตัว 805,000 บาท

0
  • เรื่องโดย Bank Bank Car ภาพ Toyota

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย แตกไลน์อัพเพิ่มทางเลือกในกลุ่มรถกระบะ ด้วยรุ่น TOYOTA HILUX REVO D Z Edition กระบะตัวเตี้ยกับการนำช่วงล่างของ GR Sport พร้อมกับยางแบบเก๋ง ภายใต้ราคา 805,000 บาท ส่วนข้อมูลและรายละเอียด จะมีอะไรบ้าง เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟัง

ภายนอกของตัวรถ REVO D Z-Edition
Hilux REVO-D 4 ประตู Z-Edition ตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น และคนทำงานกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งเน้นการใช้รถในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินทาง มาทำงาน และการใช้ชีวิตสันทนาการหลังเลิกงาน เพื่อเพิ่มความสนุกสนาน เกาะถนนหนึบ นุ่มนวล และความสบายในการขับขี่มากยิ่งขึ้น จึงได้เพิ่มชุดช่วงล่างใหม่ที่เกิดขึ้นจากปรัชญาการพัฒนารถแข่งระดับโลก Gazoo Racing นั่นคือ “GR-Sport” ที่ลดความสูงของช่วงล่างลง 23 มิลลิเมตร พร้อมปรับขนาดล้ออัลลอยด์จากเดิม 16 เป็น 17 นิ้วเป็นล้ออัลลอยด์จากรุ่นรถโตโยต้าครอส และเพิ่มความนุ่มนวล เกาะถนน ด้วยการใช้ยาง Radial สมรรถนะสูงขนาด 215/55R17 เป็นยางที่รุ่นเดียวกับที่ใช้กับโตโยต้า คัมรี่ นั่นคือบริดสโตน ทำให้สามารถควบคุมพวงมาลัยได้ดั่งใจ และสนุกสนานในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

ภายในของ REVO D Z-Edition
ยังคงมีอุปกรณ์มาตรฐานฟังก์ชันที่พวงมาลัย ควบคุมเครื่องเสียง และระบบ Cruise control หน้าจอเครื่องเสียงขนาดใหญ่ พร้อมระบบสัมผัส พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆอย่างครบครัน ระบบแอร์เป็นแบบ Manual แผ่นกรองระบบปรับอากาศ PM 2.5 ช่องวางแก้วกลางคอนโซล และเบาะหลังด้านผู้โดยสาร หลังเบาะแถวนี้มีตะขอเกี่ยวของ ทางด้านซ้ายและขวาอำนวยความสะดวกสำหรับเอาไว้แขวนของที่ซื้อมา

ช่วงล่างใหม่ยก GR Sport ทั้งชุด
ระบบช่วงล่าง Super Flex Suspension แกร่งยิ่งขึ่น นุ่มสบายอีกขั้น มั่นใจทุกการทรงตัวแหนบกันสะเทือน วัสดุ High-Tensile Steel…ที่ทำงานพร้อมโช้คอัพปรับจูนใหม่ เพิ่มความนุ่มนวลดุจรถเก่ง กับการปรับค่า K ของแหนบกับจำนวนแหนบ5แผ่นแหนบพิเศษ 3 แผ่น อีก 2 แผ่นจะเป็นแหนบบรรทุก และโช๊คอัพที่มีกระบอกใหญ่ขึ้นทำให้ช่วงล่างนุ่มนวล แม้มีน้ำหนักบรรทุกหรือขับขี่แบบไม่มีการบรรทุก เสริมด้วยยางแบบเก่ง ทำให้รถเกาะถนน เงียบและประหยัดน้ำมันมากขึ้นจะขับทางใกล้หรือทางไกล ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มีความสะดวกสบายมั่นใจปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยยังมาครบ
พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน อาทิ ระบบการควบคุมการทรงตัว VSC ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC มาครบกับรถกระบะยุคใหม่ปลอดภัยสูงสุด

ขุมพลัง 2.4L มาทุกรอบ (RPM)

เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ความจุกระบอกสูบ 2,393 ซีซี กำลังสูงสุด  110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบ/นาที ประสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมปรับเล่นเป็นแบบเกียร์ธรรมดา ให้อารมณ์แบบสปอร์ต และเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นในเวลาที่ขึ้นเขาและลงเขาและทางชัน

กิจกรรมการทดสอบ TOYOTA HILUX REVO D จัดให้มีขึ้น ของวันที่29-30 กันยายน 2565 เริ่มออกสตาร์ทกันที่ TOYOTA ALIVE (บางนา) มุ่งหน้าสู่เขาใหญ่กับจุดหมายปลายทาง คีรีมายา แบ่งการทดสอบออกเป็น 4 ช่วงขาไป-กลับกับขบวน TOYOTA HILUX REVO D จำนวน 7 คัน กับสื่อมวลชน 30 ชีวิต ที่ได้มาร่วมทดสอบในครั้งนี้ผมเองเป็นตัวแทนจาก www.carternativethailand.com ประจำในรถคันที่ 6

ช่วงที่ 1 ออกเดินทาง TOYOTA ALIVE (บางนา) ใช้เส้นทางถนนไฮเวย์เส้นรามอินทราไปลงด่านนครนายก เพื่อเข้าสู่ถนนคลองหลวงแวะจุกพักแรกที่ร้านกาแฟ Bitter Sweet เพื่อรับเครื่องดื่ม กับระยะทางช่วงแรก 73 กม . ผมเองเป็นผู้โดยสารมาในช่วงแรกสัมผัสได้ถึงความนุ่มเงียบและเกาะถนน สภาพอากาศวันนี้มีพายุ (โนรู) ฝนตกตลอดทาง ช่วงล่างที่ปรับมาใหม่ ก็แสดงให้เห็นถึงการยึดเกาะถนนความนุ่มนวลเงียบ มั่นใจมากยิ่งขึ้น แม้สภาพถนนเปียกตลอดเส้นทาง

ผ่านช่วงแรกเข้าสู่ช่วงที่ 2 เปลี่ยนผู้ขับขี่ เข้าเส้นทางถนนเลียบคลองรังสิต ผ่านจังหวัดปราจีนบุรีเพื่อขึ้นสู่เขาใหญ่ กับเส้นทางในช่วงนี้เป็นถนนหลวงฝนก็ยังตกอยู่ตลอดเวลา การจราจรค่อนข้างรถเยอะ มีทั้งรถเก๋งรถกระบะรถบรรทุกเล็ก-ใหญ่ เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง และเบรกของ TOYOTA HILUX REVO D ประสานกันได้อย่างดีจากความรู้สึกที่นั่งด้านหลังเข้าสู่เส้นทางขาขึ้นเขาใหญ่ทางด้านปราจีนบุรี เส้นทางเป็นแบบเลนส่วนกันเส้นทางขึ้นเขาลงเขาโค้งหักศอกพบเจออุปสรรคเช่นกิ่งไม้หักมีดินสไลด์บางจุดของเส้นทาง การควบคุมพวงมาลัยเป็นไปอย่างแม่นยำ

ขุมพลัง 2.4 และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด สามารถปรับเป็นแบบ Manual ทำให้การขับขี่มั่นใจมากยิ่งขึ้นช่วงล่างใหม่ GR Sport ชุดนี้และชุดเบรกหน้าดิสก์-หลังดรัม ทำให้ผมมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น ในช่วงที่ 2 นี้ ผ่านเส้นทางบนเขาใหญ่ออกสู่เส้นถนนธนรัตน์ เพื่อไปแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านขุนเขาสเตชั่น อิ่มกับอาหารกลางวันที่มีเมนูหลากหลาย

พวกเราออกเดินทางกันต่อเพื่อไปมอบข้าวสารที่โรงเรียนบ้านหมูสีที่มีอายุ 100 ปี เคียงคู่กับเขาใหญ่เพื่อเป็นอาหารกลางวันให้กับน้องๆ จบจากการมอบข้าวสารพวกเราออกเดินทางต่อเพื่อเข้าสู่ที่พักคีรีมายา เป็นการจบการทดสอบในวันแรกกับระยะทางการทดสอบในช่วงที่ 2 (123 กม.) รวม 2 ช่วงการทดสอบ 200 กม. แต่การทดสอบยังไม่จบ วันเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯเพื่อไปคืนรถที่ TOYOTA ALIVE (บางนา) ซึ่งผมได้ขับในขากลับจากที่เป็นผู้โดยสารมาทั้งวัน

มาถึงคิวที่ตัวผมเองได้ลองขับ ในวันขากลับกรุงเทพฯ หลังจากที่เดินทางออกจากที่พักคีรีมายา แวะทานอาหารกลางวันที่ร้าน THE EMPEROR STUDER เป็นร้านสเต็ก เมื่ออิ่มกับอาหารมือกลางวันเป็นที่เรียบร้อยออกเดินกลับกรุงเทพฯ จุดหมายปลายทางที่ TOYOYA ALIVE (บางนา) ในแบบฟรีรัน ต่างคนต่างกลับไม่ได้เดินทางแบบขบวนในตอนที่มา ผมเองได้มาเปลี่ยนขับในช่วงเส้นทางปากช่อง สระบุรี วังน้อยก่อนขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก เพื่อกับมาคืนรถที่ TOYOTA ALIVE (บางนา) ระยะทางที่ได้ขับ 100 กว่า กม. ถือว่าได้ขับยาวพอสมควร

สิ่งที่ผมประทับใจกับเจ้า TOYOTA HILUX REVO D Z Edition 4 ประตูตัวเตี้ย หน้าใหม่ที่มาพร้อมกับชุดช่วงล่าง GR Sport จากที่ได้นั่งมา วันนี้ได้ลองขับตามที่ทาง Toyota มุ่งหวังว่ารถคันนี้จะเป็นกระบะแบบเก๋งที่เน้นความนุ่มความสบาย ความคล่องตัวและความเงียบ พร้อมกับความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการใช้งาน ที่แตกต่างจากรถกระบะทั่วไป สามารถใช้ขนของก็ได้ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบ ที่รถเก๋งไม่สามารถทำได้ และกระบะคันนี้สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสบาย วันหยุดก็ยังสามารถพาไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ และยังขนของได้อีกด้วย

ในเวลาที่เราไปเจอของตามสถานที่ท่องเที่ยวก็สามารถซื้อกลับมาได้ เลยเป็นรถกระบะที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานขุมพลัง 2.4 ลิตร บวกกับเกียร์ 6 สปีด ถือว่าใช้ได้ช่วงเร่งแซงก็มาได้อย่างทันใจ พวงมาลัยหน่วงในรอบความเร็วสูง ทำให้มีความมั่นใจและปลอดภัย จุดเด่นของรถคันนี้คือช่วงล่างที่ทาง TOYOTA ได้ปรับขึ้นมาใหม่โดยการนำช่วงล่าง GR Sport มาใส่ให้ในคันนี้ทั้งชุดโช๊คอัพและแหนบ พร้อมปรับให้รถนั้นเตี้ยลงมีการเปลี่ยนแม็กและใส่ยางเก๋ง ทำให้รถเกาะถนนและเงียบนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น

ในด้านระบบเบรก ด้านหน้าเป็นแบบดิสก์เบรก ส่วนด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก ช่วยชะลอความเร็วได้ทุกระดับความเร็ว เสริมความปลอดภัยด้วยระบบ ABS ช่วยให้การหยุดรถมั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ภาพรวมของรถคันนี้คือการเซ็ตช่วงล่าง ใหม่ ที่ออกมาจากโรงงาน แก้อาการกระเด้ง ให้มานุ่มนวลเหมือนนั่งรถเก๋ง โดยที่ลูกค้าไม่ต้องไปปรับเซ็ตอะไรเลย สามารถนำมาใช้งานได้ทันที ไม่ต้องไปแก้ไขช่วงล่างกันเอง ให้เสียเงินเพิ่ม

ที่สำคัญการเซ็ตช่วงล่างออกจากโรงงาน ยังครอบคลุมไปถึงการรับประกัน ชิ้นส่วนตัวรถ ถ้ามีอะไรที่ผิดพลาด ลูกค้าก็ยังสามารถที่จะเข้าไปรับการเคลมชิ้นส่วนที่มีปัญหานั้นได้ ต่างจากที่ลูกค้าไปเซ็ตช่วงล่างที่ ร้านต่างๆอาจจะได้ค่าที่ไม่สมบูรณ์ และความพอใจในความนุ่มนวล รถคันนี้ถือว่าตอบโจทย์ ของผู้ที่จะซื้อรถกระบะ 4 ประตูมาใช้งานทั่วๆ ไป ไม่ได้เน้นการบรรทุกหนักมากๆ ใช้ในครอบครัวเป็นรถแบบนั่งโดยสาร ถือว่าคุ้มค่า กับราคา 805,000 บาท ได้รถที่มีช่วงล่างที่ดีเหมือนกับชื่อ REVO D

สุดท้ายที่ก่อนจะจากกันไปนั้นผมเองเป็นเพียงแค่สื่อ ให้ทุกท่านได้รับทราบรายละเอียดตัวรถ TOYOTA HILUX REVO D Z Edition ว่ามีข้อมูลอย่างไรบ้าง ท่านที่สนใจผมแนะนำว่าให้ไปที่โชว์รูม เพื่อดูตัวรถจริงๆและทดลองขับ ว่ารถจะดีเหมือนที่ผมได้บอกไปหรือไม่ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้ เพราะสมัยนี้รถแต่ละคันราคาไม่ใช่ถูกๆ และคงไม่มีใครใช้เพียงแค่ปี 2 ปีแล้วก็เปลี่ยน ส่วนใหญ่แล้วจะใช้กันเกิน 5 ปีขึ้นไปทั้งนั้น ถ้าเกิดปัญหาหรือว่าขับแล้วไม่ชอบแต่ต้องฝืนใช้ ผมเองก็ไม่สนับสนุน โชว์รูมโตโยต้ามีเยอะมาก ไปลองขับก่อนครับแล้วค่อยตัดสินใจ ส่วนชอบไม่ชอบซื้อหรือไม่ซื้อขึ้นอยู่กับตัวคุณเองครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *