MAZDA MX-30 e-Skyactiv R-E เมื่อ Plug-in Hybrid ผสานขุมพลังโรตารี่ ทำให้ขับขี่ได้ไกล 600 กม.

เป็นที่รู้กันว่ามาสด้าไม่ได้นำเครื่องยนต์โรตารี่อันเป็นเอกลักษณ์มาใช้กับสายการผลิต นับตั้งแต่รถสปอร์ต RX-8 ถูกเลิกใช้ในปี 2010 แต่ตอนนี้มาสด้าได้นำเทคโนโลยีนี้กลับมาอีกครั้ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของของยานยนต์แบบ Plug-in Hybrid ภายใต้ชื่อรุ่น MX-30 e-Skyactiv R-E ที่เน้นระยะทางในการขับขี่ได้ไกลกว่า รถ BEV อย่าง MX-30 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า

MX-30 e-Skyactiv R-EV ยานยนต์ในรูปแบบ Plug-in Hybrid ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อหน้า มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินแบบโรเตอร์เดี่ยวขนาด 830 ซีซี. ทำหน้าที่เป็นตัวปั่นไฟส่งป้อนให้กับเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ เรียกว่าก็มีลักษณะที่คล้ายๆ กับ Nissan Kicks นั่นแหละครับ แต่ MX-30 e-Skyactiv R-EV มีดีตรงที่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้

สำหรับความจุของแบตเตอรี่ lithium-ion อยู่ที่ 17.8kWh สามารถชาร์จได้เต็มด้วยไฟ AC กำลังสูงสุด 11 kW ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดด้วยโหมด EV ล้วนๆ 85 กม. (มาตรฐาน WLTP) และเมื่อไฟฟ้าจากการชาร์จไฟหมดลง เครื่องยนต์โรตารี่ขนาด 75 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดสูงสุด 116 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ก็จะเข้ามาทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับมอเตอร์-แบตเตอรี่ ด้วยกำลังสูงสุด 170 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร และปล่อย CO2 เพียง 21 กรัม/กม. ตามมาตรฐาน WLTP
Mazda เผยว่า MX-30 e-Skyactiv R-EV สามารถขับขี่ได้ไกลถึง 600 กม. เมื่อรวมการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งและน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถังขนาด 50 ลิตรเข้าด้วยกัน โดยสามารถชาร์จไฟกระแสตรงได้สูงสุด 36kW (DC) ชาร์จไฟจาก 20 ถึง 80% ในเวลา 25 นาที และประมาณ 90 นาที เมื่อชาร์จด้วยโฮมวอลล์บ็อกซ์ (AC) ขนาด 7.2kW

แม้ว่า MX-30 e-Skyactiv R-EV นั้นมีระบบส่งกำลังที่ซับซ้อนกว่า และมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 1,778 กก. แต่คอมแพ็คเอสยูวี Plug-in Hybrid คันนี้ก็เร็วและแรงกว่ารุ่น MX-30 BEV ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้าเพียวๆ อยู่เล็กน้อย โดย R-EV สามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 86 ไมล์/ชม. หรือ 138 กม./ชม. และสามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9.1 วินาที
คลิกดูรูปเพิ่มเติม
















