โตโยต้า และเลกซัส กวาดถึง 15 รางวัล “CAR OF THE YEAR 2024”
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นำทีมผู้บริหารรับ 15 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี CAR OF THE YEAR 2024 จาก ดร.ไพลิน เทียนสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องรอยัลจูบิลี่บอลรูม อาคาร ชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี รางวัลที่ได้รับ มีดังต่อไปนี้
1.TOYOTA BEST SELLING BRAND
2. TOYOTA BEST EXPORT BRAND
3. TOYOTA YARIS ATIV BEST SEDAN UNDER 1,300 c.c.
4. TOYOTA YARIS HATCHBACK BEST HATCHBACK UNDER 1,300 c.c.
5. TOYOTA YARIS CROSS BEST HYBRID SUV UNDER 1,500 c.c.
6. TOYOTA COROLLA CROSS GR SPORT BEST HYBRID SUV UNDER 1,800 c.c.
7.TOYOTA CAMRY PREMIUM BEST MID-SIZE SEDAN UNDER 2,500 c.c.
8.TOYOTA CAMRY 2.5 HEV Premium BEST MID-SIZE HYBRID SEDAN UNDER 2,500 c.c.
9. TOYOTA HILUX REVO Standard cab 4×2 2.8 Entry BEST 2WD PICKUP UNDER 3,200 c.c.
10. TOYOTA HILUX REVO 2.8 ROCCO BEST 4WD PICKUP UNDER 2,800 c.c.
11. TOYOTA HILUX REVO BEST FUEL ECONOMY PICKUP UNDER 3,500 c.c.
12. TOYOTA FORTUNER GR SPORT BEST DIESEL 4WD PPV UNDER 3,200 c.c.
13. TOYOTA HILUX CHAMP THE BEST INN0VATION PICKUP
14. LEXUS RX 500h F Sport BEST HYBRID SUV UNDER 2,500 c.c.
15. LEXUS LM 350h 4-seater BEST HYBRID LUXURY MPV
รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “CAR OF THE YEAR 2024” จัดขึ้นโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการสนับสนุนภาพลักษณ์ที่ดีด้านธุรกิจยานยนต์ และส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย โดยจะทำการคัดเลือกรถยนต์ที่มีความโดดเด่นในแต่ละด้าน ทั้งประเภทที่ผลิตในประเทศ และนำเข้า พร้อมทั้งให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง เพื่อศึกษาเป็นแนวทางในการพิจารณาเลือกซื้อรถยนต์ให้เหมาะสมตามเป้าหมายของการใช้งาน
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “โตโยต้ารู้สึกภาคภูมิใจ และขอขอบคุณคณะผู้จัดงาน CAR & BIKE OF THE YEAR 2024 การได้รับรางวัลครั้งนี้จะเป็นแรงผลักดันในการพัฒนารถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า ภายใต้หลักการ QDR ซึ่งหมายถึง Quality : คุณภาพ / Durability : ความทนทาน และ Reliability: ความไว้ใจได้ในการใช้งาน ที่เรายึดถือมาโดยตลอด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการสร้าง “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Carbon Neutrality) และการเตรียมความพร้อมในหลากหลายแนวทาง หรือ “Multiple Pathway” เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนชาวไทยในทุกรูปแบบควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐานความเป็นรถยนต์อันดับ 1 ของคนไทยตลอดไป